เรื่องเกิด ณ ร้านสะดวกซื้อ
ปกติเวลาซื้อของอะไรจากร้านใดๆ
ก็ไม่วายจะดูใบเสร็จรับเงินเป็นประจำ
เรื่องนี้เกิดจากร้านค้าสะดวกซื้อ...
ชื่อก้องที่มีทุกซอยเปิดหันหน้าชนกัน
จะพบว่าเวลาแคชเชียร์คิดเงินเสร็จ
มักมีเศษสตางค์ร่วมด้วยเสมอ เช่น
25 สตางค์ 50 สตางค์ 75 สตางค์
พนักงานของร้านก็จะแกล้งทำมึน
แล้วตัดเศษพวกนั้นทิ้งโดยพลัน
และไม่ยอมทอนเศษสตางค์เลย
พอถามก็บอกว่า ไม่มีเศษสตางค์ทอนค่ะ
ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้แสดง "ความพยายาม"
หาเหรียญสักนิดเลย ทั้งๆ ที่ร้านค้าพวกนี้
รู้อยู่แล้วว่าของบางอย่างขายแบบ "ไม่เต็มบาท"
สันนิษฐานว่าเสียอย่างไรก็ต้องมีเงินสตางค์ทอนอยู่แล้ว
บางสาขา เรียกร้องโดยบอกว่ายังทอนให้ไม่ครบ
ไอ้เจ้าเศษสตางค์สิ้นคิดนี่หละครับ
ทำให้บึ้งใส่และก็ทอนเหรียญบาทแบบเสียมิได้
คิดดูเล่นๆ ว่าหากมีการ waived แบบนี้สัก 300 ครั้ง
ใน 1 วัน เฉลี่ยครั้งละ 50 สตางค์ สุทธิแล้ว 1 ปี
หรือ 365 วัน จะทำให้เงินทอนลูกค้า
หายไปประมาณ 54,750 บาท คิดจริงๆ
เงินนี้ไปไหน?
คราวนี้เจอในกรณีร้านสะดวกซื้อแห่งเดียวกันสาขาหนึ่ง
โดยสาขานี้เค้าจะให้ส่วนลดการค้าให้ทันที5%
ผมซื้อสินค้าไป 158 บาท ได้ส่วนลดการค้า 7.75 บาท
แต่ที่น่าแปลกใจคือ ร้านค้าสะดวกซื้อสาขานี้
ให้ส่วนลดเพิ่มเติมจากการไม่มีเหรียญทอนเพิ่มอีก 0.25 บาท
รวมๆ แล้วได้ส่วนลด 8 บาทพอดี
ทำให้การซื้อครั้งนี้ซื้อสุทธิ 150 บาท
จ่ายเงินไป 500 บาท ได้เงินทอน 350 บาท
ที่เขียนมายืดยาวกำลังจะชื่นชมร้านสะดวกซื้อสาขานี้นะครับ
ว่าไม่มีเงินทอนก็ลดให้อีก อันนี้เค้าเรียกว่า ใส่ใจผู้บริโภค
ท่านๆ อย่าคิดว่า
มันเป็นแค่เศษสตางค์เล็กๆ น้อยๆ
เงินน้อยๆ รวมๆ กันเป็นเงินมากๆ
เขียนมาเขียนไป นึกกลอนได้ว่า
มีสลึงพึงประจบให้ครบบาท
อย่าให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์
จงมักน้อยกินน้อยค่อยบรรจง
อย่าจ่ายลงให้มากจะยากนานฯ.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น